ปี 2023 จะเป็นครั้งแรกสุดที่มีการจัดงาน WorldPride ในซีกโลกใต้ โดยจัดขึ้นในนครซิดนีย์ที่งดงามไม่แพ้ใคร
และเป็นเทศกาลที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งกำหนดให้เป็นงานประจำปีนับจากนี้เป็นต้นไป โดยการเฉลิมฉลองที่โด่งดังในปีนี้จะรวมเข้ากับงาน Sydney Gay and Lesbian Mardi Gras ซึ่งจัดขึ้นในซิดนีย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978
งาน Sydney WorldPride 2023 ยังตรงกับวันครบรอบ 50 ปีตั้งแต่ที่จัดงาน Australian Gay Pride Week ขึ้นครั้งแรก และจะมีการจัดนิทรรศการ คอนเสิร์ต ละครเวที และปาร์ตี้อันน่าทึ่ง จึงคาดได้เลยว่าจะพบกับปฏิทินที่เต็มไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมายตลอด 2 สัปดาห์ของเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมในเมืองที่พร้อมต้อนรับผู้เดินทางกลุ่ม LGBTQIA+ ที่สุดเมืองหนึ่ง โดยความพร้อมต้อนรับที่สุดนี้ไม่ได้นับเพียงแต่ในออสเตรเลียเท่านั้นแต่รวมถึงทั่วโลกด้วย
นอกจากจะให้ความสำคัญกับงานของศิลปินเควียร์จากชนพื้นเมือง First Nations แล้ว งาน Sydney Gay and Lesbian Mardi Gras ยังยอมรับว่างานนี้จัดขึ้นบนดินแดนของชาวอะบอริจิน “เราตระหนักถึงชาว Gadigal, Cammeraygal, Bidigal, Darug และ Dharawal ซึ่งเป็นผู้ปกครองดั้งเดิมของลุ่มน้ำซิดนีย์”
เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ LGBTQIA+ ของซิดนีย์

ในตอนเย็นของวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1978 ผู้เดินขบวน Mardi Gras ดั้งเดิมเริ่มรวมตัวกันที่จัตุรัส Taylor Square ในซิดนีย์ คนกลุ่มเล็ก ๆ นี้หวังที่จะมีส่วนร่วมกับการเฉลิมฉลองทั่วโลกและสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้กับนักเคลื่อนไหวจากนานาประเทศในวันครบรอบการเกิดเหตุการณ์ที่ Stonewall ขณะที่ผู้ร่วมขบวนเดินและเต้นตอนมุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะ Hyde Park พร้อมถือป้ายที่สร้างแรงบันดาลใจและเล่นเพลงสรรเสริญเสรีภาพของชาวเกย์ ขบวนก็ได้ประชันกับตำรวจประจำรัฐนิวเซาท์เวลส์
แม้จะมีการออกใบอนุญาตให้เดินขบวน แต่ตำรวจก็เร่งฝูงชนไปตามถนน และตอนที่มาถึงสวนสาธารณะก็มีการยึดเครื่องเสียงขนาดเล็กของผู้เดินขบวน ฝูงชนยังคงเดินต่อไปยังย่าน Kings Cross ตอนที่ตำรวจลงพื้นที่และเริ่มทำการจับกุม ความรุนแรงฝั่งตำรวจที่เกิดขึ้นตามมาทำให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นค่ำคืนสำคัญสำหรับชุมชนชาว LGBTQI ในซิดนีย์ รวมถึงวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาของออสเตรเลีย และเป็นการวางรากฐานให้เกิดการจัดงาน Mardi Gras ครั้งแรก
หลังจากนั้นไม่นาน หนังสือพิมพ์ Sydney Morning Herald ก็ตีพิมพ์ชื่อ อาชีพ และที่อยู่ของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ทำให้หลายคนต้องสูญเสียงาน บ้าน และครอบครัว มีการประท้วงและจับกุมมากขึ้นในเดือนต่อ ๆ มา เนื่องจากทางการพยายามปราบปรามกลุ่มชุมชนดังกล่าว
แต่ในปี 1979 รัฐสภาของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ยกเลิกกฎหมายที่อนุญาตให้มีการจับกุม และในปีเดียวกันนั้นเองผู้คนหลายพันก็ได้เดินขบวนพาเหรดซ้ำอีกครั้งโดยไม่โดนจับ จากการเพิ่มงานปาร์ตี้หลังการเดินขบวนพาเหรด และการรายงานข่าว รวมถึงการสนับสนุนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางยุค 80 งานนี้จึงเริ่มดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมาก และสร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์ให้กับเศรษฐกิจของรัฐนิวเซาท์เวลส์
ปัจจุบันงาน Sydney Gay and Lesbian Mardi Gras เป็นหนึ่งในงานประจำปีที่มีชื่อเสียงที่สุดของออสเตรเลีย และในปี 2023 งานดังกล่าวจะกลายเป็นงาน WorldPride ครั้งแรกสุดที่จัดขึ้นในซีกโลกใต้
สัญลักษณ์ที่อีเวนท์เหล่านี้

งาน Sydney WorldPride 2023 จะเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของการเคลื่อนไหวและการประท้วงในเมืองแห่งนี้ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเฉลิมฉลองชุมชนเควียร์ของออสเตรเลีย โดยมีธีมงานคือ “Gather. Dream. Amplify”
เทศกาลนี้ “ตระหนักถึงผู้ปกครองดั้งเดิมของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ รวมถึงเชื้อเชิญให้เราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและมรดกตกทอดที่ยาวนานสำหรับชุมชนของเราทั้งหมด เรายินดีต้อนรับชาว LGBTQIA+ จากทั่วโลก เพื่อให้เกียรติแก่ผู้สูงอายุและชุมชนของเรา รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเรา และสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อเฉลิมฉลองร่วมกันในรูปแบบใหม่ ๆ”
ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและเปิดกว้างยอมรับของงานที่ผ่าน ๆ มา ปีนี้ก็จะเป็นการเฉลิมฉลองความหลากหลายที่น่าตื่นตาตื่นใจและสนุกสนาน พบกับขบวนพาเหรดที่จะเดินไปทั่วถนนต่าง ๆ ในเมือง และดึงดูดผู้ร่วมขบวนอันเริงร่านับแสน อีกทั้งตื่นตาตื่นใจไปกับรถแห่สีสันโดนใจที่เคลื่อนผ่านเมือง
งานปี 2023 มีดารา Kylie Minogue เป็นตัวชูโรงในการแสดงฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปีของงาน นอกจากนี้ยังมีละคร การแสดง และปาร์ตี้ (ห้ามพลาดงาน Bondi Beach Party ในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม) ให้ได้เพลิดเพลินขณะเดินเตร่ไปตามถนนที่มีบรรยากาศของเทศกาลในคืนฤดูร้อนอากาศสบาย ๆ ของซิดนีย์
สำรวจวัฒนธรรมชาวเควียร์ในเมือง

ในย่าน Darlinghurst นั้นถนน Oxford Street เริ่มสถาปนาตนเองเป็นศูนย์รวมที่มีชีวิตชีวาของชาว LGBTQIA+ ในซิดนีย์โดยย้อนกลับไปถึงเมื่อกลางศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร บาร์ค็อกเทล และไนต์คลับ
สำหรับงาน Sydney WorldPride 2023 จะจัดบางส่วนของย่าน Oxford Street เป็นหมู่บ้าน “Pride Villages” เป็นเวลา 10 วันนับจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บางส่วนของถนน Crown St และถนน Riley St จะปรับให้เป็นถนนคนเดินเพื่อจัด “หมู่บ้าน” ต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน ซึ่งประกอบด้วยแผงลอย การแสดง ร้านอาหาร และเวที Travel Proud ของ Booking.com เอง
ที่พัก Travel Proud

สำหรับผู้ที่เข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของชาว LGBTQIA+ ของ WorldPride ซึ่งจัดขึ้น 3 วันที่ศูนย์การประชุม ICC ในซิดนีย์ (1-3 มีนาคม) Little National Hotel Sydney ก็เป็นที่พักที่งดงามที่อยู่ในระยะที่เดินได้จากสถานที่จัดงาน

เพลิดเพลินไปกับวิวอ่าวซิดนีย์ที่สวยงามที่ Sydney Harbour Marriott Hotel Circular Quay หรือผ่อนคลายในสระว่ายน้ำ

เข้าพักในบรรยากาศหรูหราและอยู่ติดกับ Hyde Park ได้ที่ Sheraton Grand Sydney Hyde Park
ธุรกิจของชาว LGBTQIA+ ในซิดนีย์

สำหรับผู้ที่กระตือรือร้นอยากสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นที่ดำเนินการกิจการโดยชาว LGBTQIA+ ในขณะที่อยู่ในซิดนีย์ ก็มีตัวเลือกดี ๆ มากมายให้เลือก เริ่มต้นการเดินทางไปกับทัวร์ของ Planetdwellers ซึ่งเป็นตัวแทนจัดนำเที่ยวและผู้ให้บริการทัวร์ที่ให้บริการเหนือระดับของชาว LGBTQIA+ ในออสเตรเลีย โดยมีทัวร์เดินหรือทัวร์นั่งรถบัส ล่องเรือ และทริปที่ออกแบบตามความต้องการเฉพาะ
หากต้องการเติมความสดชื่นในย่าน Darlinghurst ที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQIA+ ก็จะไม่ผิดหวังเมื่อไปคาเฟ่เล็ก ๆ งดงามสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง Sandoitchi (อย่าพลาดชามัทฉะเย็นพร้อม Chicken Katsu Salad Sando ที่ชวนให้น้ำลายสอ) สำหรับของที่ระลึกก็ต้องไม่พลาดร้านบูติค Provocator ที่นำเสนอแฟชั่นแห่งอนาคตด้วยเครื่องแต่งกายทั้งหมดที่ทำด้วยมือในออสเตรเลีย หรือหากอยากได้อะไรที่อยู่ยั่งยืนยงไปกว่านั้นอีก ก็ลองไปที่ Thanks Tattoo เพื่อพบกับช่างสักประจำร้านที่มีความคิดสร้างสรรค์และทักษะสูง
ปลดปล่อยความเป็นราชินีเท้าไฟในตัวคุณ

ช่วงสุดสัปดาห์ Crown Street (ในย่าน Surry Hills/Oxford Street) จะเป็นที่ตั้งของเวทีที่จัดการแสดงทุกคืนและความบันเทิงพิเศษเพิ่มเติม และสุดสัปดาห์สุดท้ายของงาน Sydney WorldPride จะมีการปิดถนน Oxford Street ตลอดทางตั้งแต่ Liverpool Street ไปจนถึง Flinders Street เพื่อจัดปาร์ตี้ริมถนนที่ยากจะตราตรึงไม่รู้ลืม
สำหรับการออกเที่ยวกลางคืนในสถานที่สำหรับชาว LGBTQIA+ ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งในซิดนีย์ ก็ให้ลองไปที่ Imperial Hotel ผับแห่งนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มชุมชนเควียร์มาตั้งแต่ยุค 80 และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการออกเดินทางด้วยรถบัสในภาพยนตร์เรื่อง The Adventures of Priscilla, Queen of the Desert
หรือจะมุ่งหน้าไปที่ Universal ซึ่งเป็นไนต์คลับพร้อมบาร์ที่จะได้ชมการแสดงแดร็กโชว์ทุกคืนในแต่ละสัปดาห์ และเพลิดเพลินกับค็อกเทล ดีเจ และการเต้น The Stonewall Hotel ใน Darlinghurst (ตั้งชื่อตาม Stonewall Inn อันเก่าแก่ในนิวยอร์กซิตี้) เป็นศูนย์กลางอีกแห่งของชาว LGBTQIA+ ในซิดนีย์ โดยแบ่งออกเป็นหลายชั้น มีการแสดงแดร็กโชว์ ฟลอร์เต้นรำ และบาร์หลายแห่ง
ฟังเพลงกันเถอะ
บิลด์อารมณ์ด้วยสุดยอดเพลย์ลิสต์ Pride