ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

10 เรื่องน่ารู้จากจุดหมายต่าง ๆ ทั่วโลก


ประเภททริป
พักผ่อนในเมือง

แม้ว่าตอนนี้เราจะไม่สามารถออกไปสำรวจโลกกว้างด้วยตัวเองได้ แต่ก็ยังสามารถสนุกกับการวางแผนทริปต่อไปไว้สำหรับตอนที่มีความปลอดภัยจนเดินทางได้แล้ว ดังนั้นเพื่อช่วยกระตุ้นการวางแผนของคุณ เราจึงขอเสนอ 10 ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจจากจุดหมายต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งความแปลกและไม่ค่อยมีคนรู้นี้อาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับจิตวิญญาณนักสำรวจในตัวคุณได้เป็นอย่างดี

1. มองโกเลียมีประชากรเบาบางที่สุดในโลก

จำนวนม้าในมองโกเลียมีมากกว่าจำนวนประชากร

มองโกเลีย เป็นประเทศอันกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งไม่ติดทะเล โดยทางเหนืออยู่ติดกับรัสเซียส่วนทางใต้อยู่ติดกับจีน แม้จะไม่ใช่ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกแต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นอย่างนั้นได้ เพราะที่นี่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุดในโลก โดยในบางภูมิภาคนั้นคุณอาจไม่เจอใครเลยแม้จะผ่านไปแล้วหลายวัน ด้วยภูมิประเทศที่หลากหลายและน่าทึ่งนี้ ซึ่งมีทั้งภูมิประเทศแบบภูเขา ที่ราบสูง ๆ ต่ำ ๆ ทุ่งหญ้า และทุ้งหญ้าสเตปป์ที่เวิ้งว้างและแห้งแล้ง ทำให้ที่นี่อาจเป็นที่เที่ยวที่ทุกคนฝันถึง

2. กรานาดา ประเทศสเปน เป็นที่รู้จักกันในนาม “เมืองหลวงแห่งถ้ำ” ของยุโรป

วิถีชีวิตแบบนี้นับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 15

ถ้ำในซาโครมอนเตและกวาดิกซ์ในกรานาดาเป็นที่ตั้งของชุมชนที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตแบบโบราณของสเปนที่อาศัยในถ้ำ ซึ่งมีประวัตินับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 15 ภายในภูเขาหินแห่งนี้มีบ้านใต้ดิน 2,000 หลังซึ่งขุดเจาะอย่างระมัดระวังเข้าไปในหิน ในอดีตถ้ำเหล่านี้เป็นที่หลบภัยของผู้คนเพื่อหนีจากการถูกกดขี่ทางศาสนาและเชื้อชาติ ปัจจุบันที่นี่ก็เป็นพื้นที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้ทำมาหากินกันต่อไปเหมือนกับผู้คนในหลายร้อยปีก่อน

3. โอมยาคอน ประเทศรัสเซีย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่หนาวที่สุดในโลก

แม้แต่แอลกอฮอล์ก็ยังจับตัวแข็งที่โอมยาคอน

หุบเขาโอมยาคอนที่ยาคูเตีย หรือ “จุดหนาวสุดขั้ว” ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซีย อุณหภูมิของที่นี่สามารถลดต่ำลงถึง -70 องศาเซลเซียส หนาวมากจนกระทั่งแม้แต่แอลกอฮอล์ก็ยังจับตัวเป็นน้ำแข็ง เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยไม่กี่อย่าง หมู่บ้านที่ดูแล้วไม่น่าจะมีคนอาศัยอยู่ได้นี้ที่จริงแล้วเป็นที่อยู่ของชาวไซบีเรียราว 500 คนซึ่งประกอบอาชีพดั้งเดิมอย่างเลี้ยงกวางเรนเดียร์ ล่าสัตว์ และตกปลา การท่องเที่ยวที่นี่กำลังกลายเป็นที่นิยมเช่นกันในหมู่คนที่สู้กับสภาพสุดโหดได้

4. จีนได้สร้างปารีสจำลองขึ้น

ที่นี่มีหอไอเฟลฉบับจำลองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก

ที่ที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “Little Paris” นั้นตั้งอยู่ที่ชานเมืองหางโจว ประเทศจีน โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สุดหรูแห่งนี้คือความสำเร็จที่ต้องอาศัยความทุ่มเททางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม โดยมีครบทั้งหอไอเฟลจำลอง (แม้จะมีขนาดเพียง 1 ใน 3 ของของจริง แต่ก็ยังถือเป็นหอจำลองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากที่ Paris Las Vegas Hotel ในสหรัฐอเมริกา) ประตูชัย ถนนฌ็องเซลิเซ่ น้ำพุจากสวนลุกซ็องบูร์ และมีแม้กระทั่งถนนที่เรียงรายไปด้วยอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกสีครีมของเมืองหลวงแห่งฝรั่งเศสซึ่งทำได้แทบจะเหมือนของจริงทุกประการ

5. บาฮามาสมีรูปปั้นใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ดำดิ่งสู่ผืนน้ำเพื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ

แม้น้ำจะใสแจ๋วราวกระจก แต่นิวโพรวิเดนซ์ก็มีอะไรอย่างอื่นมากกว่าที่เห็นตอนแรก สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ผืนน้ำในมหาสมุทรก็คือรูปปั้นใต้ทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (หนัก 60 ตัน สูงกว่า 5 เมตร) ซึ่งมีชื่อว่า “Ocean Atlas” Jason deCaires Taylor ศิลปินเจ้าของผลงานได้สร้างรูปปั้นใต้น้ำไว้มากมาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะดึงดูดสิ่งมีชีวิตหลากสีสันใต้ทะเลให้กลับมายังพื้นที่ซึ่งครั้งหนึ่งไม่มีสิ่งใดอยู่อาศัย

6. กาแล็ชญัก ประเทศโครเอเชีย เกาะที่มีรูปทรงเกือบจะเป็นรูปหัวใจอย่างสมบูรณ์

สถานที่หนึ่งที่น่าจดจำสำหรับทริปโรแมนติกสุดตราตรึง

แม้ว่าจะมีเกาะจำนวนหนึ่งทั่วโลกที่รูปร่างคล้ายหัวใจ แต่เกาะกาแล็ชญักในโครเอเชียได้ชื่อว่าคล้ายมากที่สุดในบรรดาเกาะเหล่านี้ เมื่อก่อนเกาะแห่งนี้ไม่มีคนอยู่อาศัยแต่ตอนนี้กำลังอยู่ในกระบวนการสร้างให้ที่นี่เป็นจุดหมายท่องเที่ยวสุดโรแมนติกไม่รู้ลืม และในเร็ว ๆ นี้ก็จะใช้เป็นที่ฉลองงานแต่งงานและฮันนีมูน

7. เดนมาร์กเป็นประเทศที่สะอาดที่สุดในโลก

ทัศนคติก้าวหน้าของเดนมาร์กในด้านสิ่งแวดล้อมนับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

เดนมาร์กมีอะไรดี ๆ หลายอย่าง ทั้งเสน่ห์ วัฒนธรรม และกาแฟ และตอนนี้ที่นี่ก็ได้กลายเป็นเหมือนผู้บุกเบิกด้านสิ่งแวดล้อมของโลก เพราะได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่สะอาดที่สุดในโลกโดยดัชนีชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม (EPI) สำหรับปี 2021 ทัศนคติก้าวหน้าของเดนมาร์กในด้านสิ่งแวดล้อมนับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในท้องถิ่น เห็นตัวอย่างได้จากอาคาร CopenHill อันล้ำสมัยของเมือง ที่นี่คือโรงผลิตพลังงานจากขยะซึ่งเปลี่ยนขยะของเมืองให้กลายเป็นความร้อนและพลังงาน แต่ก็ยังมีลานสกีเทียมอยู่บนดาดฟ้าอีกด้วย ตลอดปีก็จะมีทั้งครอบครัวและมืออาชีพมาเพลิดเพลินกับการหลั่งอะดรีนาลีนตอนพุ่งลงไปด้านล่าง

8. หมู่บ้านในตุรกียังคงใช้ “ภาษานก” ในชีวิตประจำวัน

ตอนนี้ภาษานกอยู่ในรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO ปี 2017

หมู่บ้าน Kuşköy ที่ตุรกีมีการใช้ภาษาหายากที่สื่อสารกันด้วยการผิวปากซึ่งรู้จักกันในชื่อ “ภาษานก” ถึงชื่อจะเป็นแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วภาษานี้ไม่ได้เอาไว้ใช้สื่อสารกับนกแต่อย่างใด แต่ไว้ใช้กับคนในหมู่บ้านที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ภูเขาสูงชันของ Kuşköy สารที่สื่อนั้นสามารถมีความซับซ้อนได้เช่นเดียวกับภาษาที่คนใช้กันทั่วไป และการใช้เสียงสูงก็เป็นวิธีอันหลักแหลมในการสื่อสารระยะไกล ขนมธรรมเนียมที่มีมาหลายร้อยปีนี้ยังติดโผรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO ปี 2017 อีกด้วย และใครที่โชคดีพอก็อาจได้ยินเสียงผิวปากสะท้อนไปมาเหนือร่มไม้ด้วยตัวเองสักวันหนึ่ง

9. เซ็นทรัลพาร์กของนิวยอร์กติดอันดับสถานที่ที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์มากที่สุดในโลก

โรมิโอและจูเลียต (1908) เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีฉากเป็นเซ็นทรัลพาร์ก

เซ็นทรัลพาร์กเป็นจุดที่ชาวนิวยอร์กใช้หลบหนีความวุ่นวายของแมนฮัตตันที่อยู่รอบสวนสาธารณะ ที่นี่เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของอเมริกา โดยมีครบทั้งสนามหญ้า อนุสาวรีย์ รูปปั้น สะพานอันยืดยาวไม่รู้จบ นกอพยพย้ายถิ่น และแม้กระทั่งสวนสัตว์ เรียกได้ว่ามีตัวเลือกมากมายไม่รู้จบสำหรับทีมงานที่มองหาโลเคชั่นเก่ง ๆ

10. คุณสามารถเดินข้ามลิกเตนสไตน์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วัน

ระยะทางจากพรมแดนทางเหนือจรดใต้มีเพียง 25 กม. ส่วนตะวันออกไปตะวันตกก็เพียง 4 กม.

หากการสำรวจเมืองในช่วงสุดสัปดาห์เคยฟังเหมือนกิจกรรมอันท้าทายที่น่าสนใจ ถ้าอย่างนั้นก็น่าลองไปเดินข้ามประเทศโดยใช้เวลาเป็นหลักชั่วโมงดู ประเทศที่แม้จะเล็กแต่ก็งดงามอย่างลิกเตนสไตน์นั้นมีความยาวจากเหนือจรดใต้เพียง 25 กม. และจากตะวันออกไปตะวันตกเพียง 4 กม. ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหนก็สามารถข้ามประเทศได้ในหลักชั่วโมง ข้อควรระวังเพียงอย่างเดียวก็คือเนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาแอลป์ จึงอาจต้องเดินขึ้นเนินชันอยู่บ้างในระหว่างทาง